รักษ์มะรุม

วันจันทร์ที่ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

ประสบการ์ณจากชีวิตจริง การใช้ประโยชน์ของ พืชมะรุม I


เมื่อหกปีที่แล้ววันที่ 26 ตุลาคม 2550 อาจารย์นวลฉวีได้รับข่าวเป็นที่น่ายินดีจากนายแพทย์เปี่ยมโชค ชลิดาพงศ์ ว่าท่านมีคนใข้ผู้ไม่ประสงค์จะออกนามแต่มีความยินดีที่จะนำมาเผยแพร่เป็นวิทยาทานแก่คนทั่วไป คู่ครองได้เสียชีวิตด้วยโรคเอดส์ และผู้ป่วยได้รับเชื้อร้ายมาจากคู่ครอง เมื่อตอนมาพบคุณหมออาการทรุดมากแล้ว สุดวิสัยที่จะเยียวยา แต่เนื่องศรัทธาที่มีต่อคุณหมอในเกียรติด้านโภชนบำบัด  ผู้ป่วยได้วิงวอนให้คุณหมอหาทางช่วยชีวิต ไม่ว่าจะด้วยวิธีใดก็ตาม

คุณหมอเปี่ยมโชคเล่าว่า เมื่อพบครั้งแรกนั้นผลของ viral สูงมากและผลของ CD4 มีปริมาณต่ำจนถึงจุดอันตราย ในวาระนั้นเองท่านผู้นี้ได้รับการแนะนำจากเเพื่อนให้รับประทานเมล็ดมะรุมที่แก่จัดวันละ 12 เมล็ด ขนะนี้ได้รับประทานเป็นเวลา 3 เดือนแล้ว ในระหว่างนี้ก็ยังรับการดูแลจากคุณหมออย่างสม่ำเสมอ จึงทำให้ท่านได้ผลก้าวหน้าอย่างใกล้ชิด จากการตรวจครั้งสุดท้ายปรากฎว่าปริมาณของเชื้อ viral ลดต่ำกว่า 50 หน่วย  ซึ่งถือว่าต่ำมาก และผลของ CD4 มีปรมาณสูงถึง 500 หน่วยในคนปกติจะมีราวๆ 700-800 สภาพร่างกายโดยทั่วๆไปของผู้ป่วยดูสมบูรณ์แข็งแรงเหมือนคนปกติจนถึงปัจจุบัน 2556 ซึ่งเป็นเรื่องน่ายินดีอย่างยิ่ง

แต่เนื่องจากคุณหมอเปี่ยมโชคเป็นผู้เชี่ยวชาญทางด้านโภชนบำบัดโดยเฉพาะ ท่านจึงกรุณาให้ข้อสังเกตุและแนะนำว่า เมล็ดมะรุมมีตัวยาประกอบที่สำคัญตัวหนึ่งซึ่งรับประทานติดต่อกันอย่างยาวนาน จะเกิดผลเสียต่อร่างกายมากกว่าผลดี ท่านจึงสมควรเมื่อร่างกายกลับเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว ควรหยุดใช้เสีย ส่วนการเสริมสร้างร่างกายให้ปกตินั้น สมควรหาอาหารที่เป็นยาอย่างอื่นมาทดแทน ในกรณีจากการสำหรวจงานวิจัยจากแพทย์หลายๆท่านในต่างประเทศซึ่งจะหาดูในเว็ปใซต์ทางฝั่งอเมริกา www.pubmed.gov จะเห็นได้ว่ามะรุมผงสามารถเสริมสร้างภูมิ-ต้านทานให้แกร่างกายได้เป็นอย่างดี ถึงอย่างใรก็ขั้นอยู่กับความพร้องของแต่ละบุคคลเป็นสำคัญ เพื่อความไม่ประมาทควรพบแพทย์แผนปัจจุบันตรวจดูแลสุขภาพอย่างสม่ำเสมอ 

ดังนั้น ขอกราบขอบพระคุณในเมตรตาจิตของคุณหมอเปี่ยมโชค ชลิดาพงศ์ ที่กรุณาอนุญาตให้นำข้ออมูลมาเผยแพร่เป็นวิทยาทานแก่เพื่อนร่วมชาติ

มะรุมเป็นพืชชนิดหนึ่งที่ท่านสนับสนุนให้รับประทานอย่างสม่ำเสมอ รวมทั้งชักจูงให้ปลูกใว้ในครัวเรือนด้วยโดยคำอธิบายว่าใบมะรุมมีสารต้านอนุมูลอิสระในปริมาณสูงได้เพราะมีสาร คาโรตินอยด์ในปริมาณที่สูงเช่นกัน


ดังท่านแซนฟอร์ด โฮส กล่าวใว้ว่า
"ถ้าปลูกมะรุมใว้ในบ้าน ก็เปรียบเสมือนย้ายโรงพยาบาลมาใว้ที่บ้านนั่นเอง"

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น